การแนะนำระบบการซื้อขาย
นักลงทุนที่ใช้ระบบการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งแบบง่ายและซับซ้อน แต่เป้าหมายของนักลงทุนมีเพียงอย่างเดียวคือการชี้ทิศทางของตลาด โดยพื้นฐานแล้วประสิทธิภาพของระบบเหล่านี้ก็ถือว่าดี แต่มีปัญหาหนึ่งที่สำคัญคือ “ผลกระทบล่าช้า”
ความท้าทายของเครื่องมือการวิเคราะห์ตลาด
แม้ว่าจะมีเครื่องมือการวิเคราะห์ตลาดมากมายในตลาด แต่มีเพียงไม่กี่เครื่องมือที่สามารถระบุราคาที่ชัดเจนในการเข้าซื้อขายได้ เมื่อเราเห็นถึงปัญหานี้ เราจึงออกแบบระบบ DTS ขึ้นมาเพื่อหวังว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาความยุ่งยากในการตัดสินใจที่ซับซ้อนและสามารถกำหนดราคาสำหรับการเข้าซื้อขายและกลยุทธ์ต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
แนวคิดไฟฟ้าใน DTS
ระบบ DTS ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของราคาที่เป็นเหตุเป็นผล โดยทุกราคาที่ถูกทำการซื้อขายคือการแสดงออกของเจตนารมณ์ของกลุ่ม ซึ่งไม่ว่าราคาจะผันผวนแค่ไหน สุดท้ายก็จะกลับคืนสู่เส้นทางเดิม ช่องเฉลี่ยและราคากลางใน DTS คือการแสดงออกของแนวคิดนี้
การตั้งราคาซื้อขายและการจัดการความเสี่ยง
เกี่ยวกับการตั้งราคาซื้อขาย การหยุดขาดทุน และราคาปิด ซึ่งผมเชื่อว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับนักลงทุน นี่เป็นเรื่องของกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความเสี่ยง ทุกคนควรตระหนักดีว่าในโลกนี้ไม่มีผู้ชนะที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน สุดท้ายก็จะมีวันที่ต้องประสบความล้มเหลว
การเตรียมตัวรับความล้มเหลว
ปัญหาคือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าความล้มเหลวนั้นกำลังมาเยือน? นั่นคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องเตรียมตัวรับมือ ระบบการตั้งราคาเข้าซื้อขายและหยุดการขาดทุนของ DTS ได้ถูกกำหนดจากเหตุผลข้างต้น โดยสมมุติว่าความล้มเหลวนั้นมากกว่าความสำเร็จ และสมมุติว่าความล้มเหลวเป็นสองเท่าของความสำเร็จ คืออัตราความสำเร็จอยู่ที่ 33.3% ขณะที่อัตราความล้มเหลวอยู่ที่ 66.6%
การตั้งอัตราส่วนหยุดขาดทุนและผลกำไร
ตามสมมุติฐานนี้ เราจึงตั้งอัตราส่วนหยุดขาดทุนและผลกำไรไว้ที่ 50 และ 100 โดยหยุดขาดทุนจะเท่ากับครึ่งหนึ่งของผลกำไร นอกจากนี้เรายังหลีกเลี่ยงการผันผวนของราคาในแต่ละวัน เช่น เมื่อวานมีการผันผวน 200 จุด แต่วันนี้ลดลงเหลือไม่กี่สิบจุด ทำให้การคำนวณยากขึ้น ผิดทางไปจากตลาดที่มากเกินไป เราจึงกำหนดการผันผวนเฉลี่ยสูงสุดในแต่ละวันไว้ที่ 120 จุด โดยใช้เพียง 110 จุดในการคำนวณพารามิเตอร์การเข้าซื้อขาย เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดจากค่าต่าง ดังนั้นจากการทดลอง หากอัตราความสำเร็จถึง 33.6% การให้ผลตอบแทนรายเดือนจะอยู่ที่ 10% และผลตอบแทนปีจะอยู่ที่ 300% ผ่านการจัดการอัตราส่วนกำไรและขาดทุนที่เหมาะสม ซึ่งจะสามารถลดความเสี่ยงได้ และยังสามารถรักษาผลกำไรและความมั่นคงได้อีกด้วย
วินัยในการซื้อขาย
นักลงทุนในการทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ไม่ว่าจะเลือกใช้ระบบไหน หรือระบบนั้นจะง่ายแค่ไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวินัย นักลงทุนที่ต้องการได้รับผลกำไรที่มั่นคง ไม่ใช่ความรุ่งเรืองในชั่วข้ามคืน
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น