อย่าอาย รู้จักเงาของตัวเอง
1. เมื่อซื้อแล้วราคาแลกเปลี่ยนลดลง แล้วซื้อต่อ; จากนั้นราคาแลกเปลี่ยนลดลงอีก แล้วซื้อต่ออีกครั้ง เหมือนนักช็อปปิ้งที่ชอบซื้อในช่วงลดราคา ไม่สนใจว่าแต่ละสิ่งจะมีค่าเท่าไร เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนกลับทิศและวนเวียนนานเกินไป ให้ถามตัวเองว่าทำไมสิ่งที่ชัดเจนถึงถูกมองข้ามจากตลาด? มันไม่ใช่ตลาดบ้า แต่เป็นเพราะคุณโง่ — ความน่าจะเป็นของอย่างหลังสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด
หลายครั้งที่ตั้งจุดหยุดขาดทุนแล้วถูกกระทบ
2. มีจุดหยุดขาดทุนหลายครั้งที่ถูกตั้งไว้และหายไป ไม่ตั้งไว้เลย รอดูสิ่งที่ตลาดจะทำกับเรา คุณอาจจะสามารถฟื้นจากการขาดทุนได้หลายครั้ง แต่เพียงแค่มีครั้งเดียวที่ราคาไม่กลับตัว จำนวนขาดทุนอาจเท่ากับการถูกกระทบสิบครั้งจากจุดหยุดขาดทุน
การเข้าไปเมื่อราคาผ่านไป
3. ราคาปิดเกินผ่านไปแล้ว ต้องตาม! แต่ในคืนนั้นราคากลับ ลดลง สุดท้ายก็พบว่าเป็นการเกินผ่านที่หลอกลวง ผ่านไปสิบวัน ราคาก็เกินผ่านอีกครั้ง ดูตลาดถึงบ่ายสาม ผมตัดสินใจไม่ตาม จากนั้นคืนนั้น ราคาพุ่งทะยานไป ทิ้งไว้เพียงความปวดใจ การเทรดพูดถึงความน่าจะเป็น ไม่ใช่การไล่หาความแน่นอน 100% การถูกหลอกด้วยการเกินผ่านที่หลอกลวงก็เป็นส่วนหนึ่งของการเทรด อย่าหยุดขับรถเพราะมีอุบัติเหตุ ถ้าคุณตั้งคำสั่งและขาดทุน ขาดทุนไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นผลสุดท้าย
อย่าใช้ความคิดเห็นของคนอื่นเป็นฐานในการตัดสินใจ
4. เมื่อคืนผมเพิ่งเปิดสถานะขายยูโร วันนี้เห็นบทวิเคราะห์ออนไลน์ว่า “อนาคตของยูโรเป็นไปในทางลบ” ดีใจ แต่เดี๋ยวนี้ตั้งเพิ่มอีกตำแหน่ง อย่าใช้คำพูดของคนอื่นมาเป็นพื้นฐานในการตั้งคำสั่ง ของตัวเอง อาจจะได้กำไรแต่ถ้าไม่รู้จักวิเคราะห์การตัดสินใจตัวเอง ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการขาดทุนในที่สุด
เมื่อราคาผันผวนอย่างรุนแรง
5. ราคาผันผวนมาก ไม่รู้ทำไม จนไม่สามารถทนไหว ลงทุนไป แป๊บเดียวได้เงินมา 1000 ดอลลาร์! รู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของโลก: บิล เกตส์เป็นอย่างไร? ไม่มีอะไรอันตรายไปกว่านี้อีกแล้ว เมื่อติดการเล่นพนัน ประตูการขาดทุนจะเปิดกว้าง สำหรับคุณ อย่าเข้าใจว่า 1000 ดอลลาร์เป็นเรื่องสำคัญ แม้แต่ 10,000 ดอลลาร์ก็ไม่น่าแปลกใจ จำไว้ โชคดีที่ถูกต้องไม่ได้แปลว่าคุณดี แต่ทำถูกต้องต่างหากที่ควรภูมิใจ วันนี้โชคดีได้กำไร พรุ่งนี้ขาดทุนคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำถูกดีกว่าถูกต้อง, คุมตัวเองให้ได้
มีข้ออ้างมากมายในทุกวัน
6. เมื่อสองวันที่แล้วขาดทุน เพราะลืมตั้งจุดหยุดการทำกำไร ครั้งหน้าจะไม่ลืม; เมื่อวานขาดทุนอีก เพราะมองข้ามจุดต้านที่สำคัญ ครั้งหน้าแน่นอนจะจำได้; วันนี้ขาดทุนอีกเพราะใจร้อน จะแจ้งตัวเองให้ใจเย็น; พรุ่งนี้... ทุกวันมีข้อผิดพลาดใหม่ ๆ และข้อแก้ตัวที่ไม่มีที่สิ้นสุด บางข้อผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ บางอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ มีแต่ทางออกเดียวคือ เริ่มจากจุดพื้นฐานที่ทำให้ไม่มีโอกาสทำผิดพลาด
การตั้งเป้าหมายที่ผิด
7. สัปดาห์นี้ได้กำไร 1000 ดอลลาร์ สัปดาห์ที่แล้วได้ 800 ถ้าคำนวณตามอัตรานี้ ปีหนึ่งจะได้ 46,000 ดอลลาร์... หลังจากวางแผนเสร็จ แล้วสัปดาห์หน้าขาดทุนทันที เป็นเรื่องปกติ เป้าหมายของแต่ละวันควรเป็น การทำตามทฤษฎีการลงทุนหรือการมองตลาด ไม่ใช่คำนวณว่าจะได้เงินเมื่อไร ส่วนใหญ่การเพิ่มหรือลดทุนในตลาดฟอเร็กซ์เป็นเรื่องสุ่ม ไม่มีระเบียบ
อย่างสุดท้ายที่ได้เรียนรู้
8. สุดท้าย แล้วกว่าจะมีความเชื่อมั่นในระบบการเทรดที่เข้มงวดได้ ก็กระทำเองเมื่อสัปดาห์หน้า แต่บังเอิญวันนี้ถูกดึงดูดใจด้วยการใช้ดัชนีบางตัวในหนังสือ รู้สึกว่าเจอสิ่งที่หายากมาก วันพรุ่งนี้ก็มีทางมาจากความคิดของเซียนการเทรดอีกคน รู้ขึ้นในใจ ทุกอย่างที่ทำโฟกัสไปที่การสร้างระบบการเทรดที่ “สมบูรณ์แบบ” มากขึ้น เมื่อฤดูหนาวผ่านพ้นไป ฤดูใบไม้ผลิกลับมา ระบบกำลัง “สมบูรณ์แบบ” ขึ้นแต่เงินที่ได้ไม่มาก วันหนึ่งรู้สึกตัว พบว่าสุดท้ายแล้ว สิ่งเดิม ๆ ที่เริ่มต้นกลับคือสิ่งที่ดีที่สุด คือเส้นค่าเฉลี่ยและกราฟแท่งเทียน ในที่สุดก็กลับมาที่จุดเริ่มต้น ชัดเจนแล้วว่า “ไม่มีอะไรดีที่สุด มีแต่สิ่งที่ดีกว่า” เป็นเรื่องที่อันตรายจริง ๆ ในโลกนี้มีทฤษฎีการลงทุนที่แตกต่างกันมากมาย ซึ่งมันคือ “สิ่งที่ดีที่สุด” สำหรับนักเทรดแต่ละคน สิ่งสำคัญคือ ระบบต้องสอดคล้องกับบุคลิกของคน เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างอารมณ์ของบุคลากรและคำสั่งระบบที่เกิดขึ้นให้มากที่สุด
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น